การถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทานของชาวพุทธ

การถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทานเป็นประเพณีสำคัญของชาวพุทธที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย รวมทั้งเป็นการทำบุญอย่างยิ่งใหญ่ที่สร้างอานิสงส์แก่ผู้ถวายเป็นอย่างมาก
ความเป็นมาและความสำคัญของประเพณีการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทาน
ประเพณีการถวายผ้าไตรจีวรมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พุทธศาสนิกชนถวายผ้าไตรจีวรแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อใช้นุ่งห่ม ส่วนการทอดกฐินนั้น เกิดขึ้นเมื่อครั้งพุทธองค์ประทับ ณ เมืองสาวัตถี ทรงอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์รับผ้ากฐินพิเศษนอกจากไตรจีวรได้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พระภิกษุที่จําพรรษาในถิ่นทุรกันดารความแตกต่างระหว่างการทอดผ้าป่ากับการทอดกฐิน
การทอดผ้าป่าสามารถทำได้ตลอดทั้งปี เพื่อถวายปัจจัยและสิ่งของแก่วัด โดยไม่จำกัดรายการ ส่วนการทอดกฐินจะทำได้เฉพาะหลังออกพรรษาถึงวันลอยกระทง โดยถวายผ้ากฐินซึ่งหมายถึง “ผ้าไตรจีวร” สำหรับพระภิกษุโดยเฉพาะ พร้อมด้วยปัจจัยสำหรับการบูรณะวัด.jpg)
ช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมในการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทาน
การถวาย “ผ้าไตรจีวร” นิยมทำในช่วงเข้าพรรษาหรือวันสำคัญทางพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา ส่วนกฐินจะทอดได้เฉพาะหลังออกพรรษา คือระหว่างวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 เท่านั้น หากเลยกำหนดถือว่าเป็นการทอดผ้าป่าการเตรียม “ผ้าไตรจีวร” และปัจจัยสำหรับการถวายทาน
“ผ้าไตรจีวร” สำหรับถวายควรมีขนาดและคุณภาพที่เหมาะสมตามหลักพระวินัย นิยมเลือกเนื้อผ้าที่มีความทนทาน เช่น ผ้าฝ้าย ส่วนสีของผ้าไตรจีวรมักย้อมเป็นสีเหลืองหรือสีกรัก ปัจจัยอื่น เช่น เงินทอง หรือสิ่งของเครื่องใช้ พุทธศาสนิกชนสามารถเตรียมถวายตามกำลังศรัทธาพิธีกรรมและขั้นตอนในการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทาน
เริ่มจากการนำ “ผ้าไตรจีวร” และปัจจัยใส่ในกองบุญหรือในหีบผ้ากฐิน จากนั้นอาราธนาศีล รับศีล แล้วกล่าวคำถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินตามที่พระสงฆ์นำ เมื่อพระสงฆ์อนุโมทนาจบ ผู้ถวายกรวดน้ำรับพร เป็นอันเสร็จพิธี บางวัดอาจมีการเจริญพระพุทธมนต์และแสดงธรรมเทศนาเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน.jpg)
ประโยชน์และอานิสงส์ของการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทาน
การถวาย “ผ้าไตรจีวร” ช่วยให้พระภิกษุมีจีวรเพียงพอต่อการใช้สอย ส่วนการทอดกฐินทำให้วัดมีปัจจัยในการบูรณะซ่อมแซม เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ผู้ถวายจะได้รับอานิสงส์มาก เช่น มีโชคลาภ สุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนา และได้ขึ้นสวรรค์หลังจากสิ้นชีวิตการสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทานในสังคมไทย
ชาวไทยให้ความสำคัญกับการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทานมาโดยตลอด มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศในแต่ละปี อีกทั้งยังส่งเสริมให้ลูกหลานได้มีส่วนร่วม เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา อันจะก่อให้เกิดความสุขสงบแก่สังคมโดยรวมตามมาด้วย
สรุปคือ การถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทานนับเป็นประเพณีอันดีงามที่ชาวพุทธพึงร่วมกันอนุรักษ์และสืบสาน ด้วยเป็นทั้งการบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างกุศลผลบุญแก่ตนเอง และส่งเสริมให้สังคมเกิดสันติสุข ซึ่งผลบุญและคุณค่าทางจิตใจที่ได้รับจากการถวาย “ผ้าไตรจีวร” และกฐินทาน ย่อมหาที่เปรียบมิได้เลยทีเดียว